วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

A. The Scientific Worldview : วิสัยทัศน์ทางวิทยาศาสตร์

Grades 9 through 12

ByA the end of the 12th grade, students should know that

1. สมมติฐานเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในเอกภพ ซึ่งในการศึกษาต้องมีระบบระเบียบแบบแผน

2. เวลาผ่านไปทำให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มีการเปลี่ยนแปลงทำให้กลายเป็นความรู้ใหม่ที่มีคุณสมบัติชัดเจนถาวรขึ้นกว่าเดิม

3. ทฤษฏีสามารถอธิบายสิ่งต่างๆที่สังเกตได้จากปรากฏการณ์ธรรมชาติ

4.ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เช่น กฎ ทฤษฎี แนวคิด ข้อเท็จจริง หรือ หลักการ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้ามีข้อมูลมาสนับสนุน

5. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบได้ โดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ และสามารถพัฒนาเพื่อให้ได้คำอธิบายที่น่าเชื่อถือสามารถอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขั้นในธรรมชาติได้

B . Scientific Inquiry

Grades 9 through 12

By the end of the 12th grade, students should know that

1. การสำรวจตรวจสอบปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดการเปลี่ยนแปลงสามารถใช้ทฤษฎีที่สร้างใหม่โดยอาศัยพื้นฐานทฤษฎีเดิมมาอธิบาย

2. การแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์สามารถทำได้โดยการตั้งสมมติฐาน การเก็บรวบรวมข้อมูล และนำข้อมูลที่ได้ไปสรุปความหมาย

3. บางครั้งนักวิทยาศาสตร์สามารถควบคุมเงื่อนไขเพื่อให้ได้เพื่อหาหลักฐานโดยใช้เหตุผลและจินตนาการเพื่อนำไปอธิบายและทำนายปรากฏการณ์ต่างๆ

4. มีวิธีการที่แตกต่างกันในการตรวจสอบข้อมูลในทางวิทยาศาสตร์โดยการพิสูจน์ตามหลักฐานเชิงประจักษ์

5. เมื่อพบปัญหาต้องตั้งสมมติฐานและทำการตรวจสอบสมมติฐานนั้นโดยการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์ผล ซึ่งข้อมูลที่ได้ต้องเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงปราศจากการลงความคิดเห็น

6. แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ได้จากการสังเกตในระยะเวลาสั้นๆ พบว่าจะไม่สามารถอธิบายสิ่งที่สังเกตได้หลังจากนั้นจะถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลง

7.ทฤษฏีที่ได้จากการสังเกตและเก็บข้อมูลในระยะยาวพบว่าทฤษฎีนั้นจะสามารถอธิบายปรากฏได้อย่างถูกต้อง

8. ความคิดใหม่ของนักวิทยาศาสตร์มีบริบทที่จำกัดซึ่งพวกเขาได้คิดขึ้น แต่ก็ถูกปฏิเสธด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ บางครั้งก็มีสาเหตุมาจากการไม่คาดหวังในการค้นพบ และทำได้ช้า ต้องได้รับการสนับสนุนจากการสืบเสาะหลายๆทาง
9. สัญชาติ เพศ อายุ ถิ่นกำเนิด การถูกลงโทษทางการเมืองของนักวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ อาจทำให้มีความโอนเอียงในการแปลเหตุการณ์ต่างๆ
10.เพื่อให้เป็นประโยชน์ สมมติฐานควรเป็นสิ่งที่สนับสนุนและขัดแย้ง สมมติฐานไม่มีในหลักการ สามารถทดสอบได้หากสนใจ แต่อาจไม่ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์
11. เหตุผลที่ลำเอียงในการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่าง วิธีการ และอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ นักวิทยาศาสตร์ต้องรู้ถึงความเป็นไปได้ที่เกิดการเอนเอียงข้อมูล และมีอิทธิพลต่อเหตุการณ์อย่างไร
12. เพื่อหลีกเลี่ยงการสังเกตที่เอนเอียง การศึกษาทางวิทยาศาสตร์บางครั้งใช้การสังเกตซึ่งจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุผลในการตั้งข้อสมมติ

C. The Scientific Enterprise

Grades 9 through 12

By the end of the 12th grade, students should know that

1. สมัยอียิปต์, กรีก, จีน, ฮินดู และชาวอาหรับ มีการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์และสร้างเทคโนโลยีโดยอาศัยพื้นฐานความรู้ทางคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

2. มีการนำความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นในสังคม

3. ประวัติศาสตร์มีการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปควบคู่กัน

4. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์แตกต่างจากกันในสิ่งที่ต้องการศึกษา เทคนิคการใช้ และการแสวงหาเหตุผล แล้วแต่วัตถุและสงค์ และความรู้ที่ได้มาจากหลากหลายสาขา

5. วิทยาศาสตร์ที่ใช้ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์จะต้องคำนึงถึงจริยธรรมทางด้านสังคมประกอบด้วย

6. ในการวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับสังคมการตัดสินใจของนักวิทยาศาสตร์ต้องอยู่บนพื้นฐานของจรรยาบรรณที่เหมาะสม

7. นักวิทยาศาสตร์สามารถนำข้อมูลเชิงลึกและทักษะการวิเคราะห์มาใช้ในการพัฒนาเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์สามารถช่วยให้คนเข้าใจสาเหตุแนวโน้มของเหตุการณ์และ และปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้

8. นอกจากความเชี่ยวชาญแล้ว นักวิทยาศาสตร์ควรมีความสุข ไม่มีความน่าเชื่อถือเป็นพิเศษ
9. ที่ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เป็นที่ยอมยอมรับส่วนบุคคล, สถาบัน, หรือสิ่งที่น่าสนใจที่จะได้, เขา หรือเธออาจจะมีอคติเป็นอื่นๆ
10 .ธรรมเนียมของวิทยาศาสตร์, รวมถึงคำมั่นสัญญาให้ตำแหน่งเท่ากัน และการประกาศใช้สำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ดีภายในพฤติกรรมเชี่ยวชาญเกี่ยวกับหลักจริยธรรม การหลอกลวงถูกเปิดเผยพอ หรือต่อมาโดยวิทยาศาสตร์เอง เมื่อการละเมิดของธรรมเนียมเกี่ยวกับหลักจริยธรรมเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ถูกค้นพบ, เขาที่ถูกตำหนิอย่างแรงโดยชมรมวิทยาศาสตร์, และผู้ละเมิดจะประสบปัญหากับการเอาใจใส่ของนักวิทยาศาสตร์อื่นๆ
11. การเงินทุนมีอิทธิพลในวิทยาศาสตร์เพราะการตัดสินใจในการค้นคว้าวิจัยเพื่อจะสนับสนุน การค้นคว้าวิจัยที่เงินทุนมาจากบริษัทตัวแทนรัฐบาลสหพันธ์ต่างๆ, อุตสาหกรรม, และมูลนิธิส่วนตัว
12. นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถนำมาตอบรับเหตุการณ์ของการถกเถียงสาธารณะบ่อยๆ อาจจะมี ข้อมูลเชื่อถือได้เล็กน้อยที่มีอาจจะยังไม่มีทฤษฎีเหมาะสมที่จะเข้าใจปรากฎการณ์ หรือคำตอบอาจจะรวมถึงการเปรียบเทียบการโกหกภายนอกของวิทยาศาสตร์
13. เพราะว่าวิทยาศาสตร์คือกิจกรรมเกี่ยวกับมนุษย์, สิ่งซึ่งประเมินค่าไว้สูงในอิทธิพลสังคมก็จะประเมินค่าไว้สูงในวิทยาศาสตร์
14. ทิศทางของการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ถูกกระทบโดยอิทธิพลไม่เป็นทางการภายในวัฒนธรรมของวิทยาศาสตร์เองเช่นเดียวกันกับความคิดเห็นที่เหนือกว่าซึ่งคำถามส่วนมากน่าสนใจ หรือวิธีของการไต่สวนพอสมควรมีผลมาก กระบวนการซับซ้อนรวมถึงตัวเองนักวิทยาศาสตร์ถูกพัฒนาการเสนอการค้นคว้าวิจัยโดยรับเงินทุน, และคณะกรรมการของนักวิทยาศาสตร์แนะนำความก้าวหน้าในวินัยต่างๆที่จะมีสิทธิก่อนสำหรับการรับเงินทุน
15. การกระจัดกระจายของข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อย่างรุนแรงในความก้าวหน้า ของวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งแสดงการค้นพบของเขาทั้งหลาย และทฤษฎีในกระดาษถูกส่งให้ที่การชุมนุม หรือจัดทำในวารสารเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ กระดาษเหล่านั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถที่จะแจ้งบอกเกี่ยวกับงานของเขาทั้งหลาย, เพื่อเปิดเผยแนวความคิดของเขาทั้งหลายถูกวิจารณ์โดยนักวิทยาศาสตร์อื่นๆและแน่นอน, เพื่อเป็นแนวเดียวกันของการพัฒนาเกี่ยวกับ
วิทยาศาสตร์รอบๆโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น