วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อนุทินสัปดาห์ที่สองค่ะ

อนุทินประจำสัปดาห์ที่ 2
วิชา การพัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ รหัส 01159521 นิสิต ปวท. รุ่นที่ 2
นางสาวยุวรี ไชยโพนงาม e-mail : tyclovely@hotmail.com รหัสนิสิต 5314650142

อาจารย์ให้นิสิตทุกคนทำแบบประเมินสมรรถภาพครูวิทยาศาสตร์ของนิสิต ซึ่งด้านแรก คือ ธรรมชาติของวิชาวิทยาศาสตร์ (NOS) ซึ่งอาจารย์ให้แต่ละคนให้นิยามของ NOS หลังจากนั้น อาจารย์เล่านิทานเกี่ยวกับเซอร์ไอแซคนิวตันซึ่งเป็นนิทานที่กล่าวถึงการได้มาซึ่งความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และ การที่จะเป็นครูมือหนึ่งได้นั้นควรจะมีคุณสมบัติดังนี้ คือ 1. สอนเก่ง 2. วิจัยเก่ง 3.เขียนตำราเก่ง 4. เป็นวิทยากร 5. มีการจัดทำแผนการสอนที่ดี แล้วมีการจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระบบ ใส่ CD อาจารย์แนะนำเกี่ยวกับการเป็นคนเก่ง แสดงว่า เราต้องมีคำว่า (ถ้า) ตลอดเวลา คือต้องมีการคิดที่จะแก้ปัญหาตลอดเวลา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ทักษะการแก้ปัญหาคือ ไอน์สไตน์ เป็นผู้คิดสูตร E =mc2 ปรัชญาในต่างประเทศที่นิยมใช้ คือ ปรัชญาที่ 5 อัตนิยม ( hand on and my on )
และในขณะนี้ปรัชญาของไทยยังไม่เป็นที่ยอมรับ คือ ไม่สามารถตรวจสอบได้ ไม่สามารถ proof ได้ ซึ่งในสมัย ร. 5 ได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อศึกษาเกี่ยวกับปรัชญาซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ของการศึกษาในประเทศไทย ปรัชญาที่ 5 อัตนิยม สอดคล้อง ตามเนื้อหาของวิทยาศาสตร์ hand on and my on ซึ่งตรงกับ เพียเจย์ ซึ่งมีการทดลองกับลูกของตนเอง มีระดับสติปัญญา 4 ขั้น และดิฉันได้ไปค้นคว้าเพิ่มเติมค่ะอาจารย์
ขั้นที่1 ...Sensorimotor (แรกเกิด - 2 ขวบ) เพียเจต์ เป็นนักจิตวิทยาคนแรกที่ได้ศึกษาระดับเชาวน์ปัญญาของเด็กวัยนี้ไว้อย่างละเอียดจากการสังเกตบุตร 3 คน โดยทำบันทึกไว้และสรุปว่าวัยนี้เป็นวัยที่เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม โดยประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆของร่างกาย ขั้นที่2... Preperational (อายุ18 เดือน - 7 ปี) เด็กก่อนเข้าโรงเรียนและวัยอนุบาล มีระดับเชาวน์ปัญญาอยู่ในขั้นนี้ เด็กวัยนี้มีโครงสร้างของสติปัญญา(Structure) ที่จะใช้สัญลักษณ์แทนวัตถุสิ่งของที่อยู่รอบๆตัวได้ หรือมีพัฒนาการทางด้านภาษา เด็กวัยนี้จะเริ่มด้วยการพูด เป็นประโยคและเรียนรู้คำต่างๆเพิ่มขึ้น เด็กจะได้รู้จักคิด อย่างไรก็ตาม ความคิดของของเด็กวัยนี้ยังมีข้อจำกัดหลายอย่างเด็กก่อนเข้าโรงเรียนและวัยอนุบาล มีระดับเชาวน์ปัญญาอยู่ในขั้นนี้ เด็กวัยนี้มีโครงสร้างของสติปัญญา(Structure) ที่จะใช้สัญลักษณ์แทนวัตถุสิ่งของที่อยู่รอบๆตัวได้ หรือมีพัฒนาการทางด้านภาษา เด็กวัยนี้จะเริ่มด้วยการพูดเป็นประโยคและเรียนรู้คำต่างๆเพิ่มขึ้น เด็กจะได้รู้จักคิด อย่างไรก็ตาม ความคิดของของเด็กวัยนี้ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง ขั้นที่3 Concrete Operations (อายุ 7 - 11 ปี) พัฒนาการทางด้านสติปัญญาและความคิดของเด็กวัยนี้แตกต่างกันกับเด็กในขั้น Preperational มาก เด็กวัยนี้จะสามารถสร้าง กฎเกณฑ์และตั้งกฎเกณฑ์ในการแบ่งสิ่งแวดล้อมออกเป็นหมวดหมู่ได้ คือ เด็กจะสามารถที่จะอ้างอิงด้วยเหตุผลและไม่ขึ้นกับการรับรู้จากรูปร่างเท่านั้น เด็กวัยนี้ สามารถแบ่งกลุ่มโดยใช้เกณฑ์หลายๆอย่าง และคิดย้อนกลับ (Reversibility) ได้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกิจกรรมและความสัมพันธ์ของตัวเลขก็เพิ่มมากขึ้น ขั้นที่4 Formal Operations (อายุ 12 ปีขึ้นไป) ในขั้นนี้พัฒนาการเชาวน์ปัญญาและความคิดเห็นของเด็กเป็นขั้นสุดยอด คือ เด็กในวัยนี้จะเริ่มคิดเป็นผู้ใหญ่ ความคิดแบบ เด็กสิ้นสุดลง เด็กสามารถที่จะคิดหาเหตุผลนอกเหนือไปจากข้อมูลที่มีอยู่ สามารถที่จะคิดเป็นนักวิทยาศาสตร์ สามารถที่จะตั้งสมมุติฐานและทฤษฎีและเห็นว่า ความจริงที่เห็นด้วยกับการรับรู้ไม่สำคัญเท่ากับการคิดถึงสิ่งที่อาจเป็นไปได้(Possibility) เพียเจต์ได้สรุปว่า "เด็กวัยนี้เป็นผู้ที่คิดเหนือไปกว่าสิ่งปัจจุบัน สนใจที่จะ สร้างทฤษฎีเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่าง และมีความพอใจที่จะคิดพิจารณาเกี่ยวกับกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน หรือสิ่งที่เป็นนามธรรม"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น